|
ตัวหาขอบชิ้นงาน,หัวคว้าน,แท่นเครื่องมิลลิ่งหลวมคลอน | |
ผมสนใจสินค้าพี่มากมายหลายหลายเลยชิ้นครับราคาไม่แพงแถมเวบพี่ยังมีความรู้ให้อ่านด้วยอ่ะครับผมอยากทราบว่าที่แตะหาขอบชิ้นงานของมิลลิ่งแบบแสง,เสียงกับแบบสปิงดีดนี่แบบไหนดีกว่ากันอ่ะครับแล้วชุดด้ามคว้านนี่ซื้อมาแล้วต้องเปลี่ยนอาเบอด้วยใช่ป่าวครับ ผมขอรบกวนถามพี่อีกหนึ่งคำถามครับคือตอนนี้ผมมีปัญหาเรื่องมิลลิ่งมันคลอนอ่ะครับในแนวแกนเอ็กรึป่าวไม่รู้พอผมเจาะรูนึงแล้วหมุนไปประมานยี่สิบมิลรูมันเยื้องกันอ่ะครับแล้วพอผมจับแกนเอ็กลองโยกดูแล้วมันก็คลอนอ่ะครับไม่รู้ทำไงดีอ่ะครับ
| |
ผู้ตั้งกระทู้ sonne :: วันที่ลงประกาศ 2010-09-02 16:26:10 IP : 124.120.116.29 |
ก่อนหน้า1ถัดไป |
ความคิดเห็นที่ 5 (2045782) | |
ขนาดของหัวคว้าน BC2 โต 50 มม และมาพร้อมด้ามกลม 20 มม จึงสามารถใช้ collet 20 มม
จับได้เลย หัวคว้านนี้สามารถปรับขยายได้เหมือนแบบ B Type ความละเอียด 0.01 มม เท่ากัน
และมีมีดและก้านต่อมาให้ในกล่องแล้ว specs ต่างๆสามารถดูได้จากเว็ปไซต์หรือแค็ตตาล็อค
ความจริงรุ่นนี้ขายดีพอๆกับรุ่น B-Type และราคาไม่รวม Vat เพียง 5,599 บาท
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น รจนา วันที่ตอบ 2010-09-08 21:00:07 IP : 110.168.64.181 |
ความคิดเห็นที่ 4 (2045408) | |
เล็กนี่ประมาณกี่มิลถึงกี่มิลครับปรับได้แบบ B type รึป่าวคับ แล้วราคาประมาณเท่าไหร่อ่ะครับ ขอบคุณครับ
ด้วยความเคารพอย่างสูงครับ
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น sonne วันที่ตอบ 2010-09-05 21:06:20 IP : 115.87.67.38 |
ความคิดเห็นที่ 3 (2045347) | |
หัวคว้านแบบ B-Type มีน้ำหนักมาก ประมาณ 3.5 กก. หนักเกินไปที่จะใช้ collet แบบ ER32 จับ ควรใช้ด้ามเทเปอร์ต่อเข้าเครื่องเลยจะดีกว่า แต่ถ้าไม่อยากเสียเวลาถอดด้ามของ collet ER32ออก สามารถใช้หัวคว้านรุ่นเล็ก BC2 ก็ได้ โดยใช้ลูก collet ER32 ขนาด 20 มม. จับที่ก้านได้เลย แต่หัวคว้านเล็ก ก็ทำงานได้เล็กตาม ตอนนี้ก็อยู่ที่การตัดสินใจแล้วว่าแบบไหนถึงจะเหมาะ?
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น รจนา วันที่ตอบ 2010-09-04 20:33:01 IP : 124.120.142.254 |
ความคิดเห็นที่ 2 (2045269) | |
ปล. ไม่ต้องตอบเยอะก็ได้ครับผมเกรงใจครับ
ขอบคุณครับ
ด้วยความเคารพอย่างสูงครับ
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น sonne วันที่ตอบ 2010-09-03 14:09:32 IP : 124.122.93.243 |
ความคิดเห็นที่ 1 (2045203) | |
เรียน คุณsonne
ขอบคุณที่สนใจในสินค้าและเว็ปไซต์ของบริษัท ขอตอบข้อสงสัยที่ถามมาเป็นข้อๆ ดังนี้
1. ตัวหาขอบชิ้นงาน
แต่ละแบบจะมีข้อดีข้อเสียดังนี้
1.1 แบบแสงอย่างเดียว(SOE-20L) จะมีข้อดีเรื่องความเที่ยงตรงและง่ายแก่การสังเกตุ การใช้งานไม่ยากลองฝึกใช้
ไม่นานก็ใช้เป็น
แต่มีข้อเสียคือห้ามทำตกหรือกระแทก เพราะปลายจะหักหรือคดงอ จะเสียเลยใช้งานไม่ได้ต่อไปและบางช่วงg;]kก็หา
ซื้อแบตเตอรี่ยาก
1.2 แบบแสง+เสียง(SOE-20LB) คุณสมบัคิและข้อดีข้อเสียเหมือนกับ 1.1 แต่เพิ่มเสียงเข้าไป เหมาะสำหรับงานขนาด ใหญ่ที่ต้องหาขอบในระยะที่ห่างออกไป หรือต้องแตะสัมผัสด้านหลังชิ้นงาน หรือใช้งานในรูลีกซึ่งเรามองไม่เห็น
จึงต้องใช้เสียงเป็นตัวบอก แบตเตอรี่สำหรับตัวนี้จะหาซื้อง่าย
1.3 แบบ Mechanic เป็นแบบดั้งเดิม และราคาถูกกว่า 2แบบที่กล่าวมามาก ไม่ต้องพึ่งพลังงานจากแบตเตอรี่ ทำตก
หรือกระแทกก็ไม่มีผลมาก แบบนี้จะต้องเปิดเครื่องรอบช้าๆเพื่อดูรอยแยกของส่วนลำตัวกับปลายสัมผัส (แต่ 2 แบบ
บนไม่ต้องเปิดเครื่อง) ข้อดีคือเรื่องราคาถูก และบางคนที่เคยใช้ มีความคุ้นเคยสามารถใช้งานได้เลยไม่มีปัญหา
แต่ผู้ใช้งานใหม่อาจจะรู้สึกยุ่งยากในการสังเกตุดูรอยแยกว่าตรงกันหรือยัง หรือคนที่สายตาไม่ดีก็ดูยาก เพราะต้อง
ดูใกล้ๆ จึงใช้งานในตำแหน่งที่อยู่ห่างไม่ได้ นอกจากนี้ถ้าปลายสัมผัสสึกด้านใดด้านหนึ่งมากจะทำให้หาขอบชิ้นงาน
ไม่ได้หรือผิดตำแหน่ง แบบนี้ยังแบ่งออกมาเป็น 3 แบบย่อย คือ 1.แบบดั้งเดิม SME-610 2. แบบFlangeใหญ่(รอย
แยก) 20 มม เพื่อง่ายแก่การสังเกตู (SME-1020) 3. แบบ Modified (SME-420) ที่นอกจากจะมีFlange ใหญ่ 20
มม แล้ว ยังเพิ่มปลายเล็กๆ 4 มม สำหรับร่องหรือรูเล็กๆด้วย(แต่บางคนเห็นว่าเกะกะ และไม่มีประโยชน์)
แล้วเราจะเลือกอย่างไรให้เหมาะกับงาน?
คำตอบคือ ถ้าเป็นเครื่อง CNC น่าจะใช้ 2 แบบแรกมากกว่า เพราะสะดวกในการใช้งาน และเครื่อง CNC มีราคาแพง ควรเลือกเครื่องมือให้เหมาะกับเครื่อง แต่ถ้าเป็นเครื่องมิลลิ่งทั่วไปจะใช้แบบไหนก็ได้ตามความถนัดและความชอบ นอกจากนี้ยังมีเรื่องต้องพิจารณาอีกหนึ่งเรื่องคือ ผู้ที่ตัดสินใจซื้อ ต้องการเอาไว้ใช้เองหรือให้คนอื่นใช้ ถ้าใช้เองก็พิจารณาจากเหตุผลที่กล่าวมาแล้วได้ แต่ถ้าซื้อให้ลูกน้องใช้งานโดยเฉพาะใช้กับเครื่องมิลลิ่ง มักนิยมใช้แบบ Mechanic เหตุผลเพราะราคาถูกและเสียหายยากกว่า แต่ที่สำคัญคือกลัวหาย เพราะลูกน้องไม่ค่อยรับผิดชอบ
2. หัวคว้าน
เข้าใจว่าเป็นหัวคว้านแบบ B-Type ที่แยกส่วนระหว่างด้าม (Arbor) กับหัวคว้าน(+อุปกรณ์) นั้น สามารถแยกสั่งซื้อได้ ปกติถ้าซื้อครั้งแรก ควรซื้อด้ามพร้อมหัวคว้าน จึงจะใช้งานได้ แต่ต่อมาถ้าเรามีเครื่องจักรเพิ่มอีกตัวหนึ่ง ถ้าด้ามเบอร์เดียวกันก็ใช้ร่วมกันได้เลย แต่ถ้าด้ามคนละเบอร์ ก็สามารถซื้อเฉพาะด้ามอย่างเดียวเพิ่มเติมก็ได้ และใช้หัวคว้านร่วมกัน วิธีนี้จะช่วยให้ประหยัดเงินมากขึ้น
ตัวอย่าง. ตอนแรกซื้อห้วคว้าน B-Type พร้อมด้าม NT40 ไปใช้กับเครื่องมิลลิ่ง ต่อมามีเครื่องมิลลิ่งเล็กที่ใช้ด้าม NT30 อีกเครื่องหนึ่ง ก็สามารถซื้อเฉพาะด้าม NT30 มาใช้ร่วมกับหัวคว้านเดิมก็ได้ หรือจะซื้อใหม่ทั้งชุดก็แล้วแต่ความต้องการ
3. แท่นเครื่องมิลลิ่งหลวมคลอน
เข้าใจว่าเป็นเครื่องเก่าแล้ว ถ้าเป็นช่างที่ชำนาญงานและมีเครื่องมือพร้อมสามารถฟิตรางเครื่องใหม่ได้ แต่ถ้าไม่ใช่ อาจใช้วิธีต่อไปนี้ช่วย
3.1 ถ้ามีสกรูปรับระยะความฟิตของแท่นเครื่อง ให้ไขสกรูเข้าให้ตึงอีกหน่อย
3.2 ถ้ามีแผ่นประกับด้านล่างแท่นเครื่อง ให้เช็คว่าสกรูล็อคหลวมหรือไม่ ถ้าหลวมให้ไขสกรูเข้าให้ตึง แต่ถ้าเกิดจาก
แผ่นประกับสึกมาก ให้ถอดออกมาแล้วเจียรนัยให้เรียบ แล้วประกอบกลับเข้าไป จะช่วยให้รางแท่นเครื่องแน่นขึ้น
3.3 ถ้ารางแท่นเครื่องสึกมากจนเห็นช่องว่างอย่างชัดเจน อาจใช้แผ่นชิมเสียบเข้าในร่องเพื่อให้แท่นครื่องแน่นขึ้น
แต่อย่าลืมมีตัวปิดไม่ให้ แผ่นชิมหลุดออกมาได้
3.4 ในการใช้งาน เมื่อเลื่อนตำแหน่งไปสู่ตำแหน่งที่ต้องการแล้ว อย่าลืมล็อคแท่นให้แน่นด้วย แท่นเครื่องจะได้
ไม่เลื่อน
หวังว่าคงตอบคำถามตรงกับที่ต้องการ
ขอแสดงความนับถือ
รจนา | |
ผู้แสดงความคิดเห็น รจนา วันที่ตอบ 2010-09-02 16:41:26 IP : 124.120.116.29 |
ก่อนหน้า1ถัดไป |
Visitors : 472226 |